(เขียนเมื่อ 2010-05-07 05:11:32 +0700)
เมษาที่ผ่านมานี้ ผมได้ไปเดินมองๆ laptop ตัวใหม่มาแทนที่น้อง NEC ที่อยู่คู่กันมาเกือบๆ จะสองปีล่ะ ตอนแรกก็มองอยู่หลายยี่ห้อเลย laptop เดี๋ยวนี้ราคาไม่แพงแล้วเนอะ หมื่นกลางๆ ก็ซื้อได้แล้ว แต่คุณภาพเป็นยังไงก็อีกเรื่องหนึ่ง หลังจากที่เดินมาหลายวันก็ลองเข้าไปที่ iStudio ลองลูบๆ คลำๆ MacBook ดู อื่ม… มันก็สวยดีนะ แต่ราคานี้สิทำเอาถอยเลย แพงเกิน ขนาด MacBook White ราคาเริ่มต้นที่ 36,900 ถึงจะผ่อนได้ก็เหอะ (แต่ผ่อนแล้ว รวมๆ กันก็ สี่ปลายๆ เลยแหละ) ยิ่งถ้าเป็น MacBook Pro ด้วยแล้ว ลมแทบจับเริ่มต้นที่ 46,900 แถม Spec ยังเท่ากับ MacBook White เลย แล้วด้วยความที่ผมคิดว่า Mac เป็นของแพง มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้อง … (ใจถึง) ด้วยถึงจะซื้อได้ เพราะเมื่อก่อนลง Windows ไม่ได้ (สมัย Power PC) แถมยังหาโปรแกรมใช้งานยากอีก และที่ยากยิ่งกว่าคือ CRACK (สำคัญเลยนะ) เลยทำให้ Mac ไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย
หลังจากที่ Apple ประกาศ MacBook Pro ตัวใหม่ แรงขึ้น ราคาถูกลง (แต่ก็ยังแพงอยู่) ถ้าเทียบ Spec กับรุ่นเก่าแล้ว ดีกว่ากันเยอะเลยโดยเฉพาะตัว 13 นิ้ว ราคาเกินสี่หมื่นมาหน่อยเดียวถ้าสั่งจาก education store ก็เหลือแค่ 37,900 แพงกว่า MacBook White หน้าร้านแค่พันเดียว ก็เลยเอากับมันซะหน่อย คิดว่าซื้อ Sony Vaio ล่ะกัน
กล่อง… สวยงามมากมาย เรียบๆ ไม่ต้องมีไรเขียนเยอะแยะ แต่สวย
Spec เขียนข้างๆ กล่อง โดยรวมแล้วรุ่น 13 นิ้ว ไม่ค่อยต่างจากเดิมเท่าไหร่นอกจาก HDD กับ RAM ที่เพิ่มขึ้น
แกะกล่องจะเจอ MacBook Pro ตัวน้อยๆ นอนรอเราอยู่ พร้อมที่ชาร์ต สายไฟ แผ่น DVD 2 แผ่น แผ่นแรกเป็น OSX 10.6.3 อีกแผ่นเป็น iLife คู่มือ และผ้าเช็ดทำความสะอาด (จริงๆ มีพลาสติกใส่ด้วยแต่แกะออกหมดทุกอันแล้ว)
จอ 13 นิ้วความละเอียด 1280×800 ขนาด 16:10 จะว่าไป ผมชอบความละเอียดนี้นะจอ laptop เดี๋ยวนี้จะเป็น 1366×768 กันซะหมด มันดีตรงที่ดูหนังแบบ HD แล้วจะเต็มจอพอดีแต่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่อ่ะ อ้อ จอ MacBook เป็น Panel ips ทั้งหมดเลย มองได้ชัดเจนทุกมุม เว้นมองจากด้านล่างยังไงสีก็เพี้ยนอยู่ดี ถ้าหากเป็นรุ่น 15 นิ้ว จะสามารถเลือกจอความละเอียดสูง (1680×1050) และยังเลือกแบบตัดแสงสะท้อนได้อีกด้วย (anti-glare) แต่ต้องสั่งผ่าน app store อย่างเดียวนะ
ถ้าไม่แกะ ก็ไม่ใช่ CMDEVHUB แน่ๆ เพราะฉะนั้น ขั้นตอนการแกะก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก หาไขควงตัวเล็กๆ ขันน๊อตจำนวน 11 ตัวด้านหลังเท่านั้น แล้วค่อยๆ ดึงออกมา ก็จะเห็น “เครื่องใน” น้อง MacBook Pro รุ่นใหม่นี้เลย จากที่เคยแกะ MacBook Pro 2009 มาครั้งหนึ่ง รู้สึกว่าจะเหมือนกันทุกอย่างเลย ส่วนเรื่องประกันไม่ต้องห่วงครับ แกะเครื่องไม่หมดประกัน อีกอย่างในคู่มือก็มีวิธีการแกะเครื่องมาให้เลย ไม่เหมือนยี่ห้อ A… สักอย่าง ที่เอา VOID มาแปะตรงรอยต่อไม่ให้เปลี่ยน HDD หรือเพิ่ม RAM ไม่รู้มันจะหวงประกันไปไหน ถ้าลองดูจะเห็นว่าแบตมันใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งของเครื่องเลยทีเดียว ใช้งานได้นานจนลืมเลยแหละ
RAM ใส่มาให้ 4GiB เป็นแบบ 2Gx2 DDR3 1066 สามารถเพิ่มได้เป็น 8GiB แต่ RAM แถวละ 4GiB บ้านเรายังหาไม่ได้เลย แต่ถ้าต้องการ RAM 8GiB ก็ต้อง custom จาก app store เองล่ะครับ ส่วนแบตเป็นแบบ Li Polymer ที่เก็บไฟได้มากกว่า Li -ion แถมยังทำให้เป็นรูปร่างแบบไหนก็ได้ แต่ข้อเสียคือ ถ้าวงจรป้องกันไม่ดีพอ มันจะร้อนจนไหม้ได้
Harddisk ขนาด 250GB ความเร็ว 5400 รอบ ของ Seagate ที่น่าจะทำให้เฉพาะ apple เพราะมีรูป apple แหว่งติดอยู่ด้วย จะว่าไปความจุแค่นี้มันก็พอเนอะ แต่เราจะใช้แค่นี้ทำไมในเมื่อเรามี Harddisk ที่มากกว่า แล้วเร็วกกว่า
จัดการเปลี่ยนซะเลย เป็น 320GB 7200 รอบ ซึ่งเร็วขึ้นมากกว่าหรือเปล่าอันนี้ผมไม่รู้เหมือนกัน เพราะได้เครื่องมายังไม่ทันกด Power ก็แกะแล้ว แต่ถ้าจะให้เร็วสุดๆ ต้อง SSD ล่ะครับ เอาเจ้า Intel 80GiB ใส่เข้าไป เร็วกระจาย แต่ความจุมันน้อย ไม่พอใช้ เลยจำใจเอาไปใส่กล่องแล้วทำเป็น external harddisk แทน
สรุปคร่าวๆ หลังจากตัดสินใจอยู่นานเลยว่าจะเอา MacBook White หรือ MacBook Pro ตัวใหม่ หรือ MacBook Pro ตัวเก่าที่บางที่เอามาลดราคาดี โดย MacBook Pro จะเป็นตัวล่างทั้งหมดนะครับ
Specification | MacBook White | MacBook Pro 2009 | MacBook Pro 2010 |
---|---|---|---|
วันที่วางขาย | 20 ตุลาคม 2009 | 8 มิถุนายน 2009 | 13 เมษายน 2010 |
ราคาหน้าร้าน | 36,900 | 37,900 | 40,900 |
ราคา u-store | 32,900 | – | 37,900 |
CPU | 2.26GHz P7550 | 2.26GHz P7550, P7570, P8400 | 2.4GHz P8600 3MiB L2 |
RAM | 2GiB (1×2) DDR3 1066 | 2GiB (1×2) DDR3 1066 | 4GiB (2×2) DDR3 1066 |
Harddisk | 250GB 5400rpm | 160GB 5400rpm | 250GB 5400rpm |
Graphic | nVidia 9400M | nVidia 9400M | nVidia 320M |
Display | 13.3″, 1280×800 LED Backlighting (เหมือนกันหมด แต่ลองดูแล้ว MacBook Pro จอสวยกว่า White) | ||
Wireless | BCM43224 (a/b/g/n + BT) | BCM4322 (a/b/g/draft-n) | (a/b/g/n) ยังไม่รู้ว่าใช้ชิพอะไร |
ถ้าดูจาก Spec แล้ว MacBook Pro ตัวใหม่ เหนือกว่าทุกอย่าง แต่ด้วยราคาที่ต่างกัน 4,000 บาทซึ่งก็มากพอสมควร ถ้าหากซื้อที่ u-store ก็จะต่างกัน 5,000 บาท อาจทำให้หลายๆ คนตัดสินใจซื้อ MacBook White แทน แต่ถ้าดูสิ่งที่เพิ่มขึ้น และสิ่งที่ MacBook White ไม่มีแล้ว ผมว่ายังไงมันก็คุ้มกว่าล่ะครับ
สิ่งที่ MacBook White ไม่มี
- Body เป็นอลูมิเนียม
- จอปรับแสงอัตโนมัติ
- ไฟใต้ Keyboard (สะดวกมากๆ เวลาใช้กลางคืน)
- SD Card slot
- IR เอาไว้ใช้กับ Remote (ซื้อเพิ่มอีก 750 แล้วใช้ได้แค่ดูหนังฟังเพลงกับ Present งาน)
แต่ก็อย่างว่าเนอะ บางทีมีแค่ 32,900 เท่านั้นจริงๆ ก็จำเป็นต้องเอา MacBook White อันนี้ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละท่านละครับ
ส่วนเรื่อง OSX อันนี้คงต้องใช้เวลาลองเล่นกันมากพอสมควร แต่สิ่งที่ผมติดใจเป็นพิเศษคือ มันสวยมากๆ หลังจากที่ตื่นเต้นกับ Windows 7 แล้ว พอมาเล่น OSX Snow Leopard ก็แทบลืม Windows ไปเลย แต่ก็ต้องปรับตัวพอสมควร โดยเฉพาะปุ่มที่ไม่เหมือนกัน อย่างเช่นคำสั่งง่ายๆ เช่น Copy สำหรับ Windows จะกด Ctrl+C แต่ OSX จะเป็น Command+C แทน ประมาณว่า Command บน OSX ก็คือ Ctrl บน Windows นั่นเอง และการทำงานส่วนใหญ่จะสามารถใช้ปุ่มกดเพื่อสั่งงานได้ เช่นถ้าต้องการปิดเครื่อง ก็กด Ctrl+Option+Command+Eject เท่านี้ก็ปิดเครื่องได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเลื่อน cursor เลยแม้แต่นิดเดียว แต่สิ่งที่ต้องปรับตัวครั้งใหญ่คือ การปิดโปรแกรมที่ต้องออกจากโปรแกรมโดยกด Ctrl+Q เพื่อให้โปรแกรมปิดจริงๆ กดแค่กากบากมันไม่ปิดโปรแกรมนะ
อีกอย่างที่ชอบคือ Trackpad ที่ใหญ่อลังการมากมาย ตอนแรกที่ได้มาก็สงสัยอยู่ว่าทำไมไม่มีปุ่มกดเลย พอได้ใช้งานจริงก็แทบจะลืม mouse ไปเลยนะเนี่ย เราสามารถกดได้จากทุกที่เลย แถม muti-touch ก็ใช้งานได้…อื่ม แจ่มมากมาย สามารถใช้ตั้งแต่สองนิ้ว สามนิ้ว และสี่นิ้วได้ จะว่าไปอารมณ์ก็เหมือนกับตอนที่ใช้ laptop IBM เลย ที่เราสามารถใช้ Track Point ควบคุมได้โดยที่ไม่ต้องละมือจาก Keyboard เลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากใช้มาได้อาทิตย์หนึ่งความประทับใจในของผมคือ
- เครื่องดูแข็งแรงมากๆ วัสดุที่ใช้ดีสุดๆ อันนี้ได้ใจไปเต็มๆ
- จอสว่างสดใสมากๆ พอๆ กับ DELL Ultra sharp เลย แถมยังปรับความสว่างให้เองถ้าห้องมืดหรือสว่างไป
- Magsafe แจ่มมากๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะเตะโดนสายไฟแล้วพาเครื่องกลิ้งลงพื้นเลย
- มีปุ่มไว้เช็คแบตว่าเหลือเท่าไหร่ด้านข้างเครื่องเลย ไม่ต้องพลิกเครื่องแล้วกดเช็คเหมือนรุ่นเก่าๆ แล้ว
- TrackPad ทำได้มากกว่าแค่คลิก
แต่ข้อเสียที่ได้เจอ
- เครื่องร้อน แต่มันร้อนแบบ ร้อนทั้งเครื่อง คงเพราะมันเป็นอะลูมิเนียมทั้งเครื่องมั้งเลยร้อนขนาดนี้แต่ก็ดี ถือว่าระบายความร้อนได้จากทุกส่วนของเครื่องละกันเนอะ
- จอสว่างเกินไป จะว่าไปก็ไม่ใช่ข้อเสียแหละ แต่ผมไม่เคยเจอจอ laptop ที่ปรับความสว่างได้มากขนาดนี้อ่ะ
- ช่องต่อหูฟังกับไมค์ใช้ช่องเดียวกัน
- USB มี 2 ช่องเอง ถ้าจะใช้ Mouse ก็คงต้องหาแบบ Bluetooth มาเล่นแหละ
- Layout ของ Keyboard ไม่เหมือนกับ laptop ทั่วๆ ไป แต่ถ้าเป็นคนที่ใช้ Mac มาก่อนแล้วคงไม่เท่าไหร่ เพราะมันเหมือนกันหมด
ตอนนี้ผมก็เริ่มชอบ Mac เข้าแล้วสิ ถึงแม้จะไม่สามารถแทน Windows ได้ 100% ในตอนนี้ก็ตาม เพราะมีงานเก่าๆ เอกสารเก่าๆ ที่ยังต้องตามแก้อยู่ แต่ก็แก้ปัญหาโดยลง VMWare เอา เท่านี้ก็สามารถใช้เอกสารเก่าๆ ได้แล้ว อีกไม่เกินครึ่งปี งานทั้งหมดคงย้ายลง Mac ได้แหละ รวมถึงเอกสาร MS Office ด้วย สุดท้ายผมก็กลืนน้ำลายตัวเองอีกครั้ง (ครั้งก่อนก็ iPod) หลังจากที่เคยบอกกับคนอื่นว่า ชาตินี้จะไม่ใช้ Mac เป็นอันขาด เพราะรวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้อง… (ใจถึง) ด้วย … ก็ทำไงได้อ่ะ เดี๋ยวนี้มันไม่แพงมาก แถมราคายังยั่วใจขนาดนี้ ไม่ให้หน้ามืดซื้อมาได้ไงละ